Shazam! Fury of the Gods หนังที่ดูแล้วบันเทิง

เป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้ในใจ ว่าหนังซูเปอร์ฮีโร่ภาคต่อที่เหล่าสื่อนอกส่วนใหญ่พากันชมว่าดี จะสวนทางกับรายรับเปิดตัวที่ไม่เปรี้ยงอย่างที่ควรจะเป็น Shazam! Fury of the Gods เข้าฉายไปแล้วทั้งในอเมริกาและบ้านเรา แม้จะเปิดตัวยืนหนึ่งในบ็อกออฟฟิศอเมริกา กับรายได้ 3 วันแรกอยู่ที่ 30.5 ล้านเหรียญ ซึ่งน้อยกว่าภาคแรกที่เปิดตัวไป 53 ล้านเหรียญ แต่ผู้เขียนก็คิดว่าภาคนี้ดูสนุกอยู่ดี

ชาแซม! จุดเดือดเทพเจ้า กับเรื่องราวของ บิลลี่ แบตสัน หนุ่มน้อยที่หากเขาตะโกนคำว่า “ชาแซม!” เขาจะแปลงร่างเป็นซูเปอร์ฮีโร่หุ่นล่ำบึ้กชื่อว่า ชาแซม นำแสดงโดยทีมนักแสดงที่กลับมารับทเดิมของพวกเขาอีกครั้ง อาทิ แซ็คคารี เลวี่, แอชเชอร์ แอนเจล, แจ็ค ดีแลน เกรเซอร์, อดัม โบรดี้, รอส บัตเลอร์, มีแกน กู้ด, ดี.เจ. โคโทรน่า, เกรซ แคโรไลน์ เคอร์รีย์, เฟธ เฮอร์แมน, ไจม่อน ฮอนซู ร่วมแสดงโดย เรเชล เซ็กเลอร์, ลูซี่ หลิว และเฮเลน เมียร์เรน ในฝั่งของเทพแอตลาส

ภาพยนตร์กำกับฯ โดย เดวิด เอฟ แซนด์เบิร์ก (“Shazam!,” “Annabelle: Creation”) ภายใต้อำนวยการสร้างโดย ปีเตอร์ ซาฟราน (“Aquaman,” “The Suicide Squad”) จากบทภาพยนตร์เขียนโดย เฮนรี่ เกย์เดน (“Shazam!,” “There’s Someone Inside Your House”) และคริส มอร์แกน (“Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw,” “The Fate of the Furious”) อิงจากเหล่าตัวละครดีซีเรื่อง Shazam! เขียนโดย บิล ปาร์คเกอร์ และซี. ซี. เบ็ค

ตัวหนังยังคงให้บรรยากาศของความเป็นครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งของบ้านชาแซมหรือฝั่งของเทพแอตลาส เพียงแต่ในภาคนี้ผู้เขียนไม่อินกับความเป็นครอบครัวที่ดูแล้วอบอุ่น ดูพึ่งพากันและกันได้เหมือนกับภาคแรก ตัวละครยังคงเยอะเหมือนเดิม ขอแนะนำว่าควรดูภาคแรกไปก่อนดีที่สุด จะได้มีพื้นฐานไว้บ้างว่าใครเป็นใคร ถึงตัวละครจะเยอะ ตัวบทเองพยายามให้ทุกตัวละครได้ออกจอมาเจอคนดู จนทำให้พวกเราแค่รับรู้ว่า เออ คนนี้เป็นใคร มาทำอะไรที่นี่ แล้วก็ไม่ได้บอกอะไรมากไปกว่านั้น นักแสดงฝั่งบ้านชาแซม ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีทุกคน แม้บางคนจะได้ออกจอน้อยไปนิด

ส่วนฝั่งเทพแอตลาส คนที่โผล่มาทีไร รู้สึกได้ถึงพลังออร่ามาเต็มอย่างเฮเลน เมียร์เรน คงไม่ต้องพูดอะไรมาก ไม่ผิดหวังแน่นอน ในขณะที่หนุ่มๆ เคลิ้มไปกับความสวยออร่าพุ่งของเคอร์รีย์ ในบท แมรี บรอมฟีลด์ พี่สาวคนโต ซึ่งผู้เขียนเพิ่งมานึกได้ว่า นางเล่นทั้งบทแมรี่ ภาคธรรมดาและบทแมรี่ ภาคซูเปอร์ฮีโร่ (555) ผู้เขียนยังคงชอบการปรากฎตัวฮอนซู ที่แลดูฉลาดและมีพลังในบทของพ่อมด กับน้องเฮอร์แมน ที่รับบทดาร์ล่า น้องเล็กบ้านชาแซม ที่ยังคงน่ารักสดใส ที่พูดความจริงตลอดแต่ไม่มีใครเชื่อ 55

โดยรวมแล้ว Shazam! Fury of the Gods กับความยาว 130 นาที เป็นหนังที่ดูบันเทิง ดูเพลินได้จนจบแบบไม่น่าเบื่อ มีซีนน่ารักๆ มุ้งมิ้ง มุกตลกใส่มาแบบเต็มคาราเบล แต่เมื่อถึงฉากดราม่าก็ทำได้ดี ไม่ได้ใส่มุกตลกมาแบบไม่รู้กาลเทศะ ในขณะเดียวกัน งานซีจีก็อลังการงานสร้าง ฉากแอ็คชั่นก็จัดมาเต็มแบบได้ใจสายบู๊ และตามธรรมเนียมหนังซูเปอร์ฮีโร่ ส่วนที่สนุกที่สุด คนดูคาดหวังที่สุดคือฉากเอนด์เครดิตที่ไม่เคยทำให้พวกเราผิดหวัง เรื่องนี้ใส่มาให้ 2 ตัว

Trailer